-
ผลของอุณหภูมิอัดเม็ดต่อความแข็งของเม็ดอาหารและการใช้ประโยชน์ได้ของแป้งในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเส้น
-
Effect of conditioning and pelleting temperature on pellet hardness and starch utilization in corn and cassava chip
-
เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 44 : สาขาสัตว์ สาขาสัตวแพทยศาสตร์
-
Proceedings of 44th Kasetsart University Annual Conference : Animal, Veterinary Medicine
-
44
-
สาขาสัตว์
-
2549
-
974-537-826-7
-
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
-
การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 44
-
กรุงเทพฯ
-
30 ม.ค. -2 ก.พ. 2549
-
กรุงเทพฯ
-
หน้า 11-17
-
586 หน้า
-
Thai National AGRIS Centre, Office of The University Library Kasetsart University, P.O. BOX 1084 Kasetsart Chatuchak, Bangkok 10903, Thailand
-
Q52-การแปรรูปอาหารสัตว์
-
Q54-องค์ประกอบอาหารสัตว์
-
อาหารสัตว์;ข้าวโพด;มันสำปะหลัง;อุณหภูมิ;การทำเป็นเม็ด;อาหารเม็ด;สตาร์ช;ความแน่นเนื้อ
-
Feeds;Maize;Cassava;Temperature;Pelleting;Pellets;Starch;Firmness
-
อาหารสัตว์;ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์;มันสำปะหลังเส้น;อุณหภูมิ;การอัดเม็ด;เม็ดอาหาร;แป้ง;ความแข็ง;การใช้ประโยชน์ได้
-
การศึกษาผลของอุณหภูมิอัดเม็ดต่อความแข็งของเม็ดอาหารและการย่อยได้ของแป้งในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเส้น ณ สภาวะความชื้นเฉลี่ย 30 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอุณหภูมิอัดเม็ดที่ 70 องศาเซลเซียส, 80 องศาเซลเซียส และ 90 องศาเซลเซียส ต่อคุณสมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์ได้ของแป้งในวัตถุดิบอาหารสัตว์ ด้วยแผนการทดลองเป็นแบบสุ่มตลอด 3 ซ้ำในแต่ละชุดการผลิต ปัจจัยหลักคืออุณหภูมิและชนิดวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งผลการศึกษาพบว่า อุณหภูมิและชนิดของวัตถุดิบมีปฏิสัมพันธ์ต่อความแข็งของเม็ดอาหาร โดยความแข็งของเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปจากข้าวโพดมีค่าเพิ่มขึ้นจาก 99.8 เป็น 174.5 กิโลกรัมแรงกด (P น้อยกว่า 0.05) และ 153.3 เป็น 178.0 กิโลกรัมแรงกด (P น้อยกว่า 0.05) ในเม็ดอาหารขึ้นรูปจากมันสำปะหลังเส้น เมื่ออุณหภูมิการคลุกไอน้ำและอัดเม็ดสูงขึ้นจาก 70 องศาเซลเซียส เป็น 90 องศาเซลเซียส และความแข็งของเม็ดอาหารที่ผลิตจากมันสำปะหลังเส้นมีค่าสูงกว่าที่ผลิตจากข้าวโพด (P น้อยกว่า 0.05) นอกจากนี้อุณหภูมิเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อระดับการเจลาติไนซ์ โดยเมื่ออุณหภูมิอัดเม็ดสูงขึ้นจาก 70 องศาเซลเซียส เป็น 90 องศาเซลเซียส ระดับการเจลาติไนซ์มีค่าเพิ่มขึ้น (P น้อยกว่า 0.05) จาก 34.99 เปอร์เซ็นต์ เป็น 73.05 เปอร์เซ็นต์ ในเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปจากข้าวโพดและเพิ่มขึ้นจาก 19.93 เปอร์เซ็นต์ เป็น 77.74 เปอร์เซ็นต์ ในเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปจากมันสำปะหลังเส้นและระดับการรีโทรแกรเดชั่นเพิ่มขึ้น (P น้อยกว่า 0.05) เมื่ออุณหภูมิการคลุกไอน้ำเพิ่มขึ้นจาก 80 องศาเซลเซียส เป็น 90 องศาเซลเซียส โดยเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปด้วยข้าวโพดมีระดับของการรีโทรเกรเดชั่นเป็น 4.03 เปอร์เซ็นต์ และ 8.66 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และสำหรับเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปด้วยมันสำปะหลังเส้นมีระดับการรีโทรเกรเดชั่นเป็น 3.21 เปอร์เซ็นต์ และ 3.98 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ นอกจากนี้แป้งที่ต้านทานการย่อยให้ผลไปในทิศทาง เดียวกับระดับการรีโทรเกรเดชั่น เมื่ออุณหภูมิอัดเม็ดสูงขึ้น โดยเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปจากข้าวโพดมีระดับของแป้งที่ต้านทานการย่อยที่ 0.46 เปอร์เซ็นต์, 0.74 เปอร์เซ็นต์, 0.97 เปอร์เซ็นต์ และ 0.36 เปอร์เซ็นต์, 0.42 เปอร์เซ็นต์, 0.56 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเม็ดอาหารที่ขึ้นรูปจากมันสำปะหลังเส้น
-
Experiment was conducted to determine the effect of conditioning and pelleting temperature on pellet hardness and utilization of starch. Ground corn and cassava chip were pelleted with the temperature of 70 deg C, 80 deg C, 90 deg C at the moisture level of 30 percent. The experimental design was a completely randomized design with the main effects of temperature and ingredient type. Results showed that there was an interaction between conditioning temperature and ingredient type. Pellet hardness from ground corn increased from 99.8 to 174.5 kg force (P LT 0.05), however, pellets from ground cassava chip only increased from 153.3 to 178.0 kg force (P LT 0.05) as the conditioning temperature increased from 70 deg C to 90 deg C. An increase in conditioning temperature affected (P LT 0.05) starch gelatinization with the value of 34.99 percent to 73.05 percent in corn pellets and the value of 19.93 percent to 77.74 percent in cassava pellets. The similar trend, additionally, was observed in an increase of starch retrogradation and resistance starch in ground corn and cassava pellets as the conditioning temperature increased from 80 deg C to 90 deg C. Ground corn pellets had the level of resistant starch of 0.46 percent, 0.74 percent, 0.97 percent and 0.36 percent, 0.42 percent, 0.56 percent in ground cassava pellets.
-
[1] ณัฐชนก อมรเทวภัทร (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน คณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิชาเทคโนโลยีทางกระบวนการเคมีและฟิสิกส์)
[2] ปฐมา จาตกานนท์ (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร)
-
[1] Natchanok Amornthewaphat (Kasetsart University. Bangkhen Campus, Bangkok (Thailand). Faculty of Agro-Industry. Physico-Chemical Processing Technology)
[2] Pathama Chatakanonda (Kasetsart University, Bangkok (Thailand). Kasetsart Agricultural and Agro-Industrial Product Improvement Institute)
ณัฐชนก อมรเทวภัทร และ ปฐมา จาตกานนท์. (2549).
ผลของอุณหภูมิอัดเม็ดต่อความแข็งของเม็ดอาหารและการใช้ประโยชน์ได้ของแป้งในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเส้น.
กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
.
ณัฐชนก อมรเทวภัทร และ ปฐมา จาตกานนท์.
"ผลของอุณหภูมิอัดเม็ดต่อความแข็งของเม็ดอาหารและการใช้ประโยชน์ได้ของแป้งในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเส้น".
กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
.
2549.
ณัฐชนก อมรเทวภัทร และ ปฐมา จาตกานนท์. (2549).
ผลของอุณหภูมิอัดเม็ดต่อความแข็งของเม็ดอาหารและการใช้ประโยชน์ได้ของแป้งในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเส้น.
กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
.