การทดสอบกำมะถันที่ปลอมปนในน้ำส้มสายชูด้วยชุดทดสอบ

ปีที่ 24 ฉบับที่ 1 หน้า 42-48

ไทย

Q03-การปนเปื้อนอาหาร

VINEGAR;SULPHURIC ACID;CONTAMINATION;ANALYTICAL METHODS

น้ำส้มสายชู;กรดกำมะถัน;การปลอมปน;การทดสอบทางเคมี;การทดสอบทางกายภาพ

ได้ทำการทดสอบกรดกำมะถันที่เติมลงในน้ำส้มสายชูเพื่อศึกษาข้อมูลประกอบการนำไปสนับสนุนการตรวจสอบภาคสนาม โดยวิธีการทางเคมีใช้น้ำยาเม็ทธิลไวโอเล็ตตรวจเอกลักษณ์ของกรดกำมะถัน และวิธีการทางกายภาพใช้สังเกตการเปลี่ยนสีกับลักษณะของพริกที่นำมาแช่น้ำส้มสายชู ทำการทดสอบหาค่าความเข้มข้นต่ำสุดของกรดกำมะถันที่ตรวจสอบได้ในน้ำส้มสายชู และเปรียบเทียบกับ 4 เปอร์เซ็นต์ กรดอะซิติก ผลการศึกษาพบว่า วิธีการทางเคมีสามารถตรวจสอบกรดกำมะถันที่ความเข้มข้นต่ำสุดได้ตั้งแต่ร้อยละ 0.1 ขึ้นไป และน้ำส้มสายชูที่ผ่านการแช่พริกแล้วตรวจสอบได้ตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ขึ้นไป โดยไม่ขึ้นกับระยะเวลาที่แช่พริก ส่วนวิธีการทางกายภาพพบว่าพริกที่แช่ในน้ำส้มสายชูที่มีกรดกำมะถัน ความเข้มข้นตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ขึ้นไป จะสังเกตเห็นสีพริกซีดต่างจากพริกที่แช่ใน 4 เปอร์เซ็นต์ กรดอะซิติกในช่วงวันแรกที่แช่พริก แต่เมื่อทิ้งไว้ข้ามคืนจะไม่สามารถบอกความแตกต่างของสีพริกที่เปลี่ยนไปได้

Chemical and physical investigations of adulteration of sulfuric acid in vinegar were studied. The information data obtained will support the field survey study. For the chemical test, metyl violet solution was used as an indicator to distinguish the adulterated sample from the unadulterated one. For the physical test, the change of color of chilli soaking in vinegar was observed. The results show that the detection limit for the chemical test is as low as 0.1 percent for vinegar without chilli and 0.5 percent for vinegar with chilli. For the physical test, the detection limit is 0.5 percent. However, this method is not sensitive when the chilli is soaked longer than one day. The colors of both adulterated and the unadulterated samples can not be distinguished.

[1] กอบทอง ธูปหอม (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองวิเคราะห์อาหาร)
[2] สมโภช พจนพิมล

[1] Gobthong Thoophom (Department of Medical Sciences, Nonthaburi (Thailand). Div. of Food Analysis)
[2] Sompoche Pojjanapimol